สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

กว่าจะมาเป็นกีฬา สเก็ตบอร์ด

กว่าจะมาเป็นกีฬา สเก็ตบอร์ด

Skateboard ชนิดแรกสุดมีลักษณะคล้ายกับ Scooter

ย้อนกลับไปในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 Skateboard ประกอบด้วยล้อแบบ Roller-skate โดยติดตั้งแบบ 2 x 4 ตัวพื้นไม้มักจะมีกรอบไม้ยึดด้วยตะปู พร้อมกับด้ามจับยื่นออกมาสำหรับการบังคับ หลังจากนั้นอีก 5 ทศวรรษ เด็ก ๆ ก็ได้ดัดแปลงรูปร่าง โดยการเอากรอบไม้ออก และเริ่มการเล่นด้วยล้อโลหะแบบ 2 x 4 จากนั้น Roller-skate จำนวนมากก็ได้ถูกแยกชิ้นส่วน เพื่อนำไปตอกตะปูติดกับแผ่นไม้กันอย่างแพร่หลาย
ในช่วงยุค 1950 Truck (อุปกรณ์ลากที่ประกอบด้วยล้อหลายล้อ) ก็ได้ถูกดัดแปลงเพื่อให้เด็ก ๆ สามารถเล่นได้อย่างง่ายขึ้น ในช่วงปลายยุค 1950 Surfing เริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และผู้คนก็เริ่มที่จะเชื่อมโยง การเล่นบอร์ดเข้ากับ Surfing จนกระทั่งในปี 1959 Roller Derby Skateboard อันแรกก็ได้ถูกวางขาย ล้อดินได้เริ่มเข้ามา และการเล่น Surfing ตามทางเดินเท้าก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ก่อนที่จะเข้าสู่ยุค 1960 การเล่น Skateboard ได้รับความสนใจอย่างมากในบรรดาผู้ที่ชอบ Surfing เมื่อ Larry Stevenson ซึ่งเป็นผู้จัดทำ Surf Guide ได้พยายามเผยแพร่การเล่น Skateboard ทุกอย่างก็เริ่มต้นขึ้น Makaha ซึ่งเป็นบริษัทของ Larry ก็ได้ออกแบบ Skateboard สำหรับมืออาชีพขึ้นในปี 1963 และได้จัดตั้งทีมงานเพื่อเผยแพร่สินค้านี้

การแข่งขัน Skateboard ครั้งแรกได้มีขึ้นที่ Pier Avenue Junior School ใน Hermosa, California ในปี 1963 และในปี 1964 Hobie Alter ผู้เป็นตำนานของการเล่น Surfing ก็ได้จัดทำ Hobie Skateboard โดยร่วมมือกับ Vita Pakt Juice Company ในขณะที่ผู้เล่นส่วนมากได้เอาถนนหรือทางเดินเท้าเป็นสถานที่เล่น บางคนก็มีความกล้ามากที่จะเล่นในสระว่ายน้ำที่ไม่มีน้ำ ในปี 1965 การแข่งขันระหว่างประเทศ ภาพยนตร์ (Skate Dater) นิตรสาร (The Quarterly Skateboarder) และการจัดทริปเดินทาง ข้ามประเทศของกลุ่มผู้เล่น Skateboard ก็ได้สร้างความนิยมในตัวกีฬาชนิดนี้เพิ่มขึ้น มีการขาย Skateboard กว่า 50 ล้านอันภายใน 3 ปี แต่แล้วในทันทีทันใดการเล่น Skateboard ก็ได้เสื่อมลงในฤดูใบไม้ร่วงของปี 1965

คลามตกต่ำของ Skateboard คั้งแรกนี้เกิดมาจากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน มีสินค้ามากเกินไป และผู้คนก็เบื่อหน่ายกับการเล่นที่อันตรายขาดความยั้งคิด ผู้ผลิตเองก็มัวแต่สนใจแต่การผลิตสินค้า จนมองข้ามการวิจัยและพัฒนาสินค้า แม้ว่าบางบริษัทได้พยายามที่จะคิดค้นล้อใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพมากขึ้น แต่ล้อดินก็เป็นล้อที่มีราคาถูกที่สุดสำหรับผู้ผลิต ซึ่งในขณะเดียวกันล้อดินนั้นไม่สามารถเกาะถนนได้ดีเท่าไรนัก และผู้เล่นก็มักจะลื่นล้มได้ทุกที่ หลาย ๆ เมืองจึงเริ่มที่จะห้ามการเล่น Skateboard เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย หลังจากที่มีเหตุการณ์อุบัติเหตุร้ายแรงถึงชีวิต 2-3 ครั้ง ผู้ผลิตอย่างเช่น Vita Pakt และ Makaha นั้นได้สูญเสียเงินจำนวนมหาศาล จากการยกเลิกยอดสั่งซื้อในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

กว่า 8 ปีต่อมา การเล่น Skateboard ก็เป็นไปแบบไม่แพร่หลาย มีขึ้นในบางสถานที่ อาทิ Santa Monica, California เป็นต้น ในช่วงนี้ Larry Stevenson ได้คิดค้น Skateboard แบบ Kicktail และพยายามที่จะรื้ดฟื้นการเล่น Skateboard ขึ้นมาใหม่ แต่เขาก็ทำได้เพียงความสำเร็จเล็ก ๆ เท่านั้น

ในปี 1970 Frank Nasworthy ผู้เล่น Skateboard รายหนึ่งได้เข้าขมโรงงานผลิตพลาสติกแห่งหนึ่งใน Purcellville, Virginia โดยโรงงานแห่งนั้นได้ผลิตล้อยูรีเทนสำหรับ Roller Sports (บริการสถานที่เล่น Roller-skate) โดยล้อยูรีเทนจะช่วยให้มีความยึดเกาะดีขึ้น และ Frank ก็คิดขึ้นมาได้ว่าล้อชนิดนี้น่าจะเหมาะสมกับ Hobie Skateboard ของเขามากกว่า ดังนั้นเขาจึงผลิตล้อ Skateboard ที่ทำมาจากยูรีเทน และตามความคาดหมาย การเล่นด้วยล้อชนิดใหม่นี้ ให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับล้อดิน จากนั้น Frank ได้เผยแพร่สินค้าของเขาใน San Diego และได้ถูกต่อต้านอย่างมากในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ล้อยูรีเทนได้มีผู้ทดลองเล่นและเผยแพร่ไปทั่ว California

ในปี 1973 ล้อ Cadiallac ของ Frank Nasworthy ได้ทำให้เกิดกระแสความนิยมในการเล่น Skateboard ครั้งที่ 2 ผู้ผลิต Truck อย่างเช่น Bennett และ Tracker เริ่มที่จะผลิต Truck ที่ออกแบบมาเพื่อการเล่น Skateboard โดยเฉพาะ ผู้ผลิต Skateboard ก็เกิดขึ้นอย่างมากมายในชั่วข้ามคืน และในทันทีทันใดตลาดก็เต็มไปด้วยสินค้าและแนวคิดใหม่ ๆ ในปี 1975 Road Rider ได้คิดค้นล้อแบบพรีซิชั่นที่มีการยึดที่แน่นกว่า และถือว่าเป็นการสิ้นสุดยุคของล้อแบบดั้งเดิม ผู้เล่น Skateboard จำนวนมากได้ฝึกฝนการเล่น Skateboard แบบต่าง ๆ ได้แก่ Slalom Downhill และ Freestyle นิตรยสาร Skateboarder ก็ได้ถูกจัดตั้งขึ้นมาใหม่ และในไม่ช้าสำนักพิมพ์อื่น ๆ ก็ได้จัดทำนิตรยาสารประเภทนี้บ้าง โดยต่างก็มุ่งหวังที่จะทำเงินจากการกลับมาของ Skateboard และได้ลงข่าวเกี่ยวกับผู้มีชื่อเสียงในวงการ Skateboard อาทิ Bruce Logan, Russ Howell, Stacy Peralta, Tom Sims และ Gregg Weaver

Skatepark สำหรับเล่น Skate นอกอาคารแห่งแรกได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อผู้เล่น Skateboard ใน Florida ในปี 1976 จากนั้นก็ตามมาด้วยอีกหลาย ๆ สวนไปทั่วอเมริกาเหนือ การเล่น Skateboard ได้ได้เปลี่ยนจากการเล่นตามแนวนอนไปเป็นการเล่นแนวตั้ง และการเล่นแบบ Slalom และ Freestyle ก้เริ่มเสื่อมความนิยม รูปทรงของ Skateboard ก็เปลี่ยนแปลงไปจากความกว้าง 6-7นิ้ว เป็น มากกว่า 9 นิ้ว ซึ่งการเพิ่มความกว้างนี้จะช่วยให้การทรงตัวดีขึ้นในพื้นผิวแนวตั้ง ผู้เล่นชื่อดังเช่น Tony Alva, Jay Adams Tom "Wally" Inoyoue, Wes Humpston และ Jim Muir ได้เผยแพร่ Skateboard ที่มีรูปกราฟฟิคในชื่อ Dogtown และหลังจากนั้นไม่นาน ผู้ผลิตทุกรายต่างก็ใส่กราฟฟิคบน Skateboard

ในปี 1978 Alan Gelfand ได้คิดค้น "Ollie" หรือ No Hand's Aerial ซึ่งได้ยกการเล่น Skateboard ไปอีกระดับหนึ่ง พื้นฐานของการเล่น รูปแบบของการเล่น Skateboard ตามถนนเริ่มใช้ท่าเล่นแนวตั้งมาปรับเข้ากับพื้นเรียบ วัฒนธรรมของ Skateboard ก้ได้ถูกผนวกเข้ากับดนตรีพังค์และนิวเวฟ รุปหัวกระโหลกก็ปรากฏบนหลาย ๆ Skateboardจากการิเริ่มของ Vernon Courtland Johnson แห่ง Powell Corporation

Pool Skating ได้รับความนิยมอย่างมาก และจากผลของเทคโนโลยีที่ดีขึ้น ผู้เล่นสามารถที่จะเล่นท่าแบบ Aerial และพัฒนาไปไกลเกินกว่าการควบคุม การประกัน Skatepark ได้กลายมาเป็นประเด็นด้านความรับผิดชอบ ซึ่งในความเป็นจริง การประกัน Skatepark ก็มีราคาสูงมากสำหรับเจ้าของกิจการจนพวกเขาต้องเลิกกิจการ ในช่วงปลาย 1980 การเล่น Skateboard ก็เสื่อมความนิยมลง และผู้ผลิตต่างก็ประสบการสูญเสียครั้งใหญ่อีกครั้ง เมื่อ BMX เข้ามา และ นิตยสาร Skateboarder ก็เปลี่ยนไปเป็น Action ผู้เล่น Skateboard ส่วนใหญ่ก็ได้ละทิ้งกีฬาของตน และการเล่น Skateboard ก็ได้กลับลงสู่ใต้ดินอีกครั้ง ผู้ที่ยังยึดมั่นใน Skateboard ก็เล่นภายในสนามหลังบ้าน หลังจากที่ Skatepark จำนวนมากได้ปิดตัวลง

ในปี 1981 นิตยสาร Thrasher ได้เริ่มต้นขึ้นโดยมีความมุ่งหมายที่จะเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ Skateboard ให้กับผู้ที่ยังชื่นชอบอยู่ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการจัดการแข่งขัน แต่ก็ได้รับความสนใจน้อยและเงินรางวัลก็น้อยมาก ในปี 1982 Tony Hawk ได้รับชัยชนะในการแข่งขันครั้งแรกของเขาที่ Del Mar Skate Ranch และในปี 1983 ผู้ผลิตอาทิ Santa Cruz, Powell Peralza และ Tracker ได้มองเห็นหนทางขาขึ้นของ Skateboard อีกครั้งหนึ่ง โดยในปีเดียวกันนั้น Transworld Skateboarding ก็ได้เข้ามามีบทบาท

ในปี 1984 การเล่นแบบ Vert ได้เริ่มต้นขึ้น และตามมาด้วย Streetstyle การเล่นบน Ramp ก็เริ่มได้รับความนิยม Powell Peralza ก็ได้จัดทำวีดีโอ "Bones Brigade" ชิ้นแรกขึ้นมาจากความคิดสร้างสรรค์ของ CR Stecyk และ Stacy Peralta โดยวีดีโอนี้ได้รวบรวมทีมผู้เล่น Skateboard และพยายามสร้างความนิยมให้กับการเล่น Skateboard อีกครั้ง ในครั้งนี้ มีผู้ผลิต Skateboard รายใหม่เกิดขึ้นมากมาย และ การเล่น Skateboard ก็เข้าสู่กระแสความนิยมครั้งที่ 3 แชมเปี้ยนของการเล่นแนวตั้งก็เกิดขึ้นมากมายเช่นกัน รวมทั้ง Tony Hawkม Christian Hosoi, Lance Mountain และ Neil Blender ตามถนน Mark Gonzales, Natas Kaupas และ Tommy Guerrero ได้ ยกความสูงของ Ollie ไปอีกระดับหนึ่ง ในขณะที่ การเล่นแบบ Freestyle ก็ยังคงมีบทบาทอยู่ และ Rodney Mullan ก็ได้รับชัยชนะในทุกการแข่งขัน

ในกลางถึงปลายยุค 1980 ผู้ผลิตหลัก 3 ราย ได้แก่ Powell Peralta, Vision/Sims และ Santa Cruz ก็ได้ครอบคลุมตลาดส่วนใหญ่ ผู้ที่นิยมใน Skateboard และการแข่งขันต่าง ๆ ก็เพิ่มขึ้น โดยผู้เล่นมืออาชีพบางคนทำรายได้หลายหมื่นดอลลาร์ต่อเดือน National Skateboard Association ภายใต้การนำของ Frank Hawk ได้จัดให้มีการแข่งขันหลายรายการขึ้นไปทั่วอเมริกาเหนือ และในที่สุดได้ขยายไปทั่วโลก รองเท้า Skateboard ของ Airwalk, Van และ Vision ก็ได้รับความนิยมควบคู่ไปกับเครื่องแต่งกาย Skateboard

จนกระทั่งสิ้นทศวรรษ การเล่น Skateboard ได้ย้ายจุดเน้นไปยังการเล่นบนถนน และ การเล่นแบบ Vert ก็ได้รับความนิยมน้อยลง ผู้เล่นมืออาชีพหลายคนได้ตั้งบริษัท Skateboard เล็กของตนเอง หนึ่งในบรรดาผู้ที่ริเริ่มคือ Steve Rocco ซึ่งจัดตั้ง World Industries เมื่อเวลาผ่านไป ความต้องการของตลาด Skateboard ได้เปลี่ยนแปลงไป การเล่น Skateboard แบบใหม่ได้เกิดขึ้น โดยเน้นที่ Oillie และเทคนิคพลิกแพลงต่าง ๆ ซึ่งได้เปลี่ยนแปลงทัศนคติใหม่ทั้งหมดเกี่ยวกับ Skateboard

ในปี 1991 ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม Skateboard อย่างมาก ผู้ผลิตจำนวนมากไดประสบภาวะขาดทุน จากการที่อุตสาหกรรมโดยรวมอยู่ในภาวะติดลบ ได้มีการพยายามที่จะฟื้นฟูตนเองขึ้นมาใหม่ Big Brother ได้เริ่มอีกครั้งในปี 1992 โดยในครั้งการตกต่ำไม่ได้มากเท่าครั้งก่อน ๆ ดังนั้นกลางยุค 1990 การเล่น Skateboard ก็กลับมาอีกครั้ง และกระแสความนิยมครั้งที่ 4 ก็ได้เริ่มขึ้น ในปี 1995 การเล่น Skateboard ได้รับความสนใจอย่างมากใน ESPN 2 Extreme Games ผู้ผลิตรองเท้า Skateboard อาทิ Etnies และ Vans ก็เริ่มที่จะขายได้ในปริมาณมาก และมีผู้ผลิตรายย่อยเกิดขึ้นอีกครั้งด้วยความมุ่งหวัง ที่จะทำรายได้จากความนิยมครั้งนี้

จนกระทั่งปลายยุค 1990 จุดเน้นของการเล่น Skateboard ยังคงอยู่ที่ Streetstyle และตลาดก็ยังคงเต็มไปด้วยผู้ประกอบการจำนวนมากมาย โดยรวมแล้ว ผู้เล่นมืออาชีพก็ได้ผลิตสินค้าของตนเอง และบริหารบริษัทของตนเอง Longboarding ศิลปะการเล่นที่ถูกลืมก็เริ่มที่จะกลับเข้ามา และ การเล่นแบบ Downhill ก็พัฒนาตนเองเข้าสู่มิติใหม่ ใน California สวน Skateboard ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อันเนื่องมาจาก การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย และความพยายามของ Jim Fitzpatrick และ The International Association of Skateboard Companies ที่ได้ส้รางความมั่นใจว่า รัฐอื่น ๆ ได้ทำตาม California จากนั้น สวนอื่น ๆ ก็ได้ถูกสร้างขึ้นในช่วง 2-3 ปีต่อมา

ตลอดเวลา 40 ปี การเล่น Skateboard ได้ผ่านยุคเฟื่องฟูและยุคตกต่ำทางกระแสความนิยมมาหลายครั้ง โดย ทั้ง สินค้าไม่มีคุณภาพ ความกังวลเรื่องความปลอดภัย ประเด็นการประกัน และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ต่างก็ได้ส่งผลต่อความตกต่ำของ Skateboard อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีการเล่น Skateboard ก็ได้มีการพัฒนาอย่างมากมายจากเดิมที่เป็นล้อดิน ในแง่ของอัตราการบาดเจ็บ กีฬาชนิดนี้ก็ยังคงมีความปลอดภัยสูงกว่าฟุตบอล ฮอคกี้ หรือ Rollerblading (เมื่อเทียบเปอร์เซ็นต์ของผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บ) เมื่อไม่นับ ความกังวลเรื่องความปลอดภัย และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ กีฬานี้ก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่ เนื่องจากเหตุผลง่าย ๆ คือ เป็นสิ่งที่ให้ความสนุกอย่างมากเท่านั้นเอง

ข้อมูลจาก http://www2.se-ed.net/skatepop/Skateboard.html


Tags : สเก็ตบอร์ด

view